ทั้งร้านค้า / ลดสูงสุด 300 บาท
10% off
ซื้อขั้นต่ำ ฿399.00
ใช้ได้ถึง 30-11-24
เหลือ 542 คูปอง
ทั้งร้านค้า / ลดสูงสุด 300 บาท
5% off
ซื้อขั้นต่ำ ฿359.00
ใช้ได้ถึง 30-11-24
เหลือ 499 คูปอง
ทั้งร้านค้า / ลดสูงสุด 300 บาท
10% off
ซื้อขั้นต่ำ ฿399.00
ใช้ได้ถึง 30-11-24
เหลือ 468 คูปอง
ทั้งร้านค้า / ลดสูงสุด 300 บาท
10% off
ซื้อขั้นต่ำ ฿399.00
ใช้ได้ถึง 30-11-24
เหลือ 529 คูปอง
|
|
|
|
|
เรื่องย่อ
เรื่องย่อ:
ซีรี่ส์อิงประวัติศาสตร์เรื่องใหม่ล่าสุดจากทีมงานผู้กำกับและผู้เขียนบท Dae Jang Geum Seo Dong Yo เป็นหนังอิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ King Mu ของแคว้น Baekjae ในสมัยนั้นเกาหลีแยกเป็น 3 แคว้นใหญ่ คือ Baekjae, Silla และ Cogurea Seo Dong Yo บอกเล่าเรื่องราวการก้าวสู่ความสำเร็จของ King Mu และหนังยังแสดงให้เห็นความช่างประดิษฐ์คิดค้นของชาว Baekjae อีกด้วย ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับราชสำนักนั้นมักจะกล่าวถึงที่มาของการต่อสู้แย่งชิงจนก้าวขึ้นสู่บัลลังก์มังกร แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับกล่าวถึง คนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ไม่ได้คิดเป็นใหญ่ เป็นพระราชาปกครองแผ่นดิน เพื่อทำความฝันของตัวเองให้กลายเป็นจริง จึงจำเป็นต้องสถาปนาตนเองขึ้นเป็นพระราชา พระราชาที่ปรากฏในเรื่องนี้นั้น เป็นพระราชาที่ไม่ใช่ผู้ชนะ จากการต่อสู้แย่งชิงเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ แต่เป็นนักปกครองที่เยี่ยมยอด ภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวถึงประวัติศาสตร์แคว้น Baekjaeของประเทศเกาหลี เรื่องราวไม่เพียงกล่าวถึงราชสำนักและวิทยาการอันทันสมัยของแคว้น Baekjae และเส้นทางชีวิตที่ลุ่มๆ ดอนๆ ที่ต้องผ่าพันอุปสรรคนานัปการจนก้าวขึ้นสู่บัลลังก์มังกรของพระเจ้ามู(ค.ศ.600-641 (ตรงกับปลายราชวงศ์สุย ต้นราชวงศ์ถังของจีน)) เท่านั้น นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงเรื่องราวความรักของพระเจ้ามู(ซอดง)กับองค์หญิงซันวาผู้เลอโฉมอีกด้วย พระเจ้าวีต๊กพระราชาลำดับที่ 27 ของแคว้น Baekjae (ค.ศ. 578) หนึ่งวันก่อนพิธีบวงสรวง ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว พระราชาจะต้องชำระล้างพระวรกายให้สะอาดหมดจด จะใกล้ชิดสตรีไม่ได้ ซึ่งเรียกกันว่าการครองพรมจรรย์ แต่ในคืนนั้นเอง ความงดงามของนางรำ ทำให้พระเจ้าวีต๊กไม่สามารถห้ามพระทัยไว้ได้ ทำให้พระองค์ทรงมีความสัมพันธ์กับนางรำ ด้วยเรื่องนี้เองทำให้บูยอซุนซึ่งมีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าวีต๊ก รวมทั้งเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงในราชสำนักพากันคัดค้านไม่เข้าร่วมพิธีบวงสรวง พระเจ้าวีต๊กทรงปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมีรับสั่งขับไล่นางรำออกจากวังหลวง ต่อมา นางรำก็ให้กำเนิดพระโอรส เนื่องจากนางขายมันเทศเลี้ยงชีพ เด็กคนนี้จึงมีชื่อว่าซอดง เดิมทีเด็กคนนี้มีชื่อว่าอาชาง (บูยอชาง) ในสมัยที่ซอดงเป็นเด็กนั้นถูกคนในหมู่บ้านมองว่าเป็นเด็กปิศาจ ที่มักจะนำหายนะและภัยพิบัติมาให้หมู่บ้าน ด้วยเหตุนี้เองยอนกาโมแม่ของซอดงจึงไหว้วานโมนาซูซึ่งเป็นมหาบัณฑิตในวังหลวงอบรมเลี้ยงดูซอดง เนื่องจากโมนาซูเป็นคนขององค์รัชทายาทอะจา ทำให้โมนาซูถูกตั้งข้อรังเกียจจากบูยอซุนซึ่งกำลังเรืองอำนาจอยู่ในขณะนั้น จนต้องซัดเซพเนจรไปทั่ว โมนาซูและซอดงต้องหลบหนีจากวังหลวง แล้วเข้าไปอาศัยอยู่ที่แคว้นชิลลา ที่นั่นโมนาซูและซอดงสร้างโรงงานผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัยขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดาบ อาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งเครื่องปั้นดินเผาชนิดต่างๆ ซอดงศึกษาการปกครองจากโมนาซู ต่อมา ซอดงได้พบกับองค์หญิงซันวา ด้วยความเข้าพระทัยผิดขององค์หญิง ซันวา จึงนำภัยพิบัติมาสู่โมนาซูและซอดง สิบปีต่อมา ได้มีบทเพลงพื้นบ้านบทหนึ่งได้ร้อยเรียงเรื่องราวความรักของซอดงกับองค์หญิงซันวา ไม่เพียงเท่านั้น ชีวิตของคนทั้งสองยังต้องพัวพันกับซาเต็ดคิรูเชื้อพระวงศ์ของแคว้นชิลลาอีกด้วย
|
|
|
|
|
|