เรื่องย่อ
ในปี ค.ศ. 1973 มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ถูกนำออกฉายชื่อ เซอร์ปิโก้ ตำรวจอันตราย(แสดงนำโดยอัล ปาชิโน) ซึ่งเป็นเรื่องราวของตำรวจจากนิวยอร์กฝ่ายปราบปรามยาเสพติด ที่ถูกกลุ่มตำรวจด้วยกันเอง วางแผนสังหารเขา เพราะไม่พอใจที่เซอร์ปิโก้ ต้องการล้มล้างขบวนการค้ายาเสพติดในนิวยอร์กโดยมีตำรวจที่นิวยอร์กหลายคน รวมถึงตำรวจใหญ่หลายนายก็รู้เห็นเป็นใจในเรื่องการค้ายาเสพติด เซอร์ปิโก้ จึงกลายเป็นหมาหัวเน่าที่กรมตำรวจที่นิวยอร์ก พากันมองว่าเป็นตัวอันตรายสำหรับตำรวจชั่ว
ในเดือนกันยายน ปี ค.ศ.1971 เขาถูกยิงที่ใต้ตาในขณะที่ออกไปทำการจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดใน apartment แห่งหนึ่งแม้ว่าเขาจะถูกยิงล้มลง แต่เขาก็แข็งใจยิงสู้ตอบ ตำรวจที่ไปกับเซอร์ปิโก้ก็ไม่ยอมที่จะให้การช่วยเหลือ รวมถึงชะลอการเรียกรถพยาบาล เพราะต้องการให้เขาตายในที่เกิดเหตุโชคดีที่เขารอดตายมาได้ และก็ได้รับเหรียญกล้าหาญอย่างเสียไม่ได้ที่ว่าเสียไม่ได้ก็เพราะว่า มีการนำเหรียญกล้าหาญไปวางบนโต๊ะทำงานของเขาไม่มีการจัดงานกล่าวสดุดดีอะไรให้กับเขาเลย และตำรวจจำนวนมาก ก็ไม่ได้แสดงทีท่าแสดงความดีใจให้กับเขา
หลังจากที่เขาหายจากอาการบาดเจ็บในปีเดียวกัน คือปี 1971 ในเดือนธันวาคมเขาได้ไปให้การต่อคณะกรรมการอิสระ ว่ามีตำรวจยศร้อยโทผู้หนึ่ง และพวกๆอีกหลายคน(แต่สาวไปไม่ถึงตำรวจยศชั้นสูง)รับสินบนจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดโดยเซอร์ปิโก้ ได้พูดต่อคณะกรรมอิสระ ที่มีใจความตอนหนึ่ง ที่น่าสนใจว่า
การปรากฏตัวของผมในครั้งนี้...ผมหวังว่าตำรวจรุ่นหลังของผมคงไม่ต้องเจอกับประสบการณ์ ที่เศร้า และคับแค้นใจอย่างผมที่ต้องเผชิญอยู่ถึงห้าปีต่อการรายงานถึงผู้บังคับบัญชา ในเรื่องการค้ายาเสพติด ผมรู้สึกว่า พวกเขาได้มองผมว่าผมได้กลายเป็นตัวอุปสรรคต่อภารกิจของพวกเขา ปัญหาของผมที่ต้องเผชิญคือบรรยากาศในการสร้างตำรวจดีๆที่มีความซื่อสัตย์นั้นยังไม่มีโดยที่ตำรวจที่ซื่อสัตย์ สามารถที่จะปฎิบัติหน้าที่ โดยไม่ต้องกลัวหรือถูกเย้ยหยัน หรือถูกโต้กลับจากเหล่าตำรวจด้วยกันเอง การคอร์รับชั่นของตำรวจนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้รับการยินยอมจากตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมตำรวจ ดังนั้นความสำคัญที่สุดของการให้การของผมในที่นี้ คือความเชื่อของผมที่ว่ากรมตำรวจจะต้องทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตนเองและเราจะสามารถเปลี่ยนโครงสร้างอันนี้ได้ ก็ต่อเมื่อเรามีองค์กรที่อิสระจริงๆที่ทำการไต่สวน และรับฟังข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่องอย่างเช่นคณะกรรมการที่กำลังรับฟังผมอยู่ในขณะนี้'
ในปัจจุบัน เซอร์ปิโก้ได้เกษียณตนเองจากชีวิตตำรวจไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังคงปรากฏตัวในที่สาธารณะทำการต่อต้านการทำงานของตำรวจที่มีทีท่าส่อไปในทางคอร์รัปชั่นหรือการใช้ความรุนแรงของตำรวจที่มีต่อประชาชนทั่วไปหรือการบิดเบือนกฎหมายที่ตำรวจโกงนำออกมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของพวกตนหรือปกป้องกลุ่มคนที่เอื้อประโยชน์ให้กับตำรวจฉ้อฉลและจากความที่เขาได้กลายเป็นบุคคลสาธารณะ และได้รับการยอมรับทำให้เขาใช้ประโยชน์ดังกล่าว คอยให้การสนับสนุน กลุ่มบุคคล หรือบุคคลที่ออกมาทำการต่อสู้กับความอยุติธรรมแก่พลเมือง เขาเรียกกลุ่มคนที่กล้าเสี่ยงภัยหรือเสี่ยงชีวิตเพื่อต่อต้านความอยุติธรรมนี้ว่า 'Lamp Lighters' หรือผู้จุดตะเกียงเซอร์ปิโก้ เคยพูดไว้ในเรื่องการต่อสู้กับคอร์รัปชั่นว่า
การต่อสู้กับคอร์รัปชั่นเพื่อเรียกร้องหาความยุติธรรมนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ไม่ง่ายในอดีตและจะไม่ง่ายในอนาคต การต่อสู้ดังกล่าว มันเรียกร้องจากชีวิตเรามากจากชีวิตครอบครัวเรา จากมิตรสหายของเรา และโดยเฉพาะจากลูกของเรา แต่ในที่สุดผมเชื่อว่า อย่างที่กรณีที่เกิดขึ้นกับผม ว่าราคาที่เราจ่ายมันไปคุ้มค่ากับศักดิ์ศรีที่เราเชิดชู'
|