ทั้งร้านค้า / ลดสูงสุด 300 บาท
5% off
ซื้อขั้นต่ำ ฿359.00
ใช้ได้ถึง 30-11-24
เหลือ 500 คูปอง
ทั้งร้านค้า / ลดสูงสุด 300 บาท
10% off
ซื้อขั้นต่ำ ฿399.00
ใช้ได้ถึง 30-11-24
เหลือ 482 คูปอง
ทั้งร้านค้า / ลดสูงสุด 400 บาท
13% off
ซื้อขั้นต่ำ ฿459.00
ใช้ได้ถึง 30-11-24
เหลือ 360 คูปอง
|
|
|
|
|
เรื่องย่อ
เป็นการเล่าเรื่องหลังจากเหตุการณ์เสียสละของ ซูเปอร์แมน (เฮนรี่ คาวิลล์) ที่กอบกู้โลกจากหายนะที่เหล่าวายร้ายอย่าง สเต็ปเปนวูล์ฟ เดอซาด และดาร์คซายด์ ก่อขึ้น ทำให้แบทแมน (เบน แอฟเฟล็ก) ต้องขอความช่วยเหลือจาก วันเดอร์ วูแมน (กัล กาด็อต) เพื่อรวมทีมยอดมนุษย์ในการผนึกกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูและต่อสู้กับมหันตภัยร้ายครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง แต่การรวมทีมเหล่าฮีโร่ที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่าง แบทแมน, วันเดอร์ วูแมน, อควาแมน (เจสัน โมมัว), ไซบอร์ก (เรย์ ฟิชเชอร์) และ เดอะ แฟลช (เอซรา มิลเลอร์) อาจสายเกินไปสำหรับการกอบกู้โลกจากเหล่าร้ายที่บุกจู่โจมในครั้งนี้
HBO Max ได้ปล่อยตัวอย่างเต็มอย่างเป็นทางการของ Zack Snyder’s Justice League ซึ่งมาพร้อมโทนที่มืดหม่น จริงจังมากขึ้นกว่าเวอร์ชันของผู้กำกับ Joss Whedon (จอสส์ วีดอน) เมื่อปี 2017 ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของ ผู้กำกับ Zack Snyder (แซ็ก สไนเดอร์) ที่ได้ตัดต่อและถ่ายเสริมเพื่อให้สมบูรณ์ที่สุดตามที่ได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรก ตัวอย่างดังกล่าวเปิดตัวด้วยคำบรรยายของ Lex Luthor (รับบทโดย Jesse Eisenberg) ที่เตือนว่าศึกครั้งใหญ่กำลังจะมา จากนั้นตามมาด้วยการเปิดเผยโฉมใหม่ของ Cyborg และ Steppenwolf รวมถึงวายร้ายตัวหลักอย่าง Darkseid, Superman ในชุดดำ และ Joker (รับบทโดย Jared Leto) อีกฉากที่น่าประทับใจคือ “Knightmare” ที่แฟนๆเรียกร้องอยากดูเวอร์ชันเต็มๆ จากที่เคยได้ชมบางส่วนมาแล้วใน Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) Zack Snyder’s Justice League มีกำหนดฉายผ่านบริการสตรีมมิง HBO Max โดยจะมีความยาวถึง 4 ชั่วโมง เลยทีเดียว
|
|
|
|
|
|