เรื่องย่อ
พระเอก “โคจิ” เป็นจิตรกรหนุ่มใหญ่ฝีมือดี แต่กลับมีปมด้อยสำคัญคือเขาเป็นใบ้เนื่องจากอาการเจ็บป่วยในวัยเด็กจนทำให้ เขาสูญเสียการได้ยินไป ทำให้พระเอกปิดตัวเองจากโลกภายนอก เลิกพูดคุยกับผู้คนหันมาใช้ภาษามือในการสื่อสารแทน จนได้มาเจอกับนางเอก “ฮิโรโกะ” นักแสดงสาวฝึกหัดโดยบังเอิญหลายครั้งในสวนสาธารณะแถวบ้านของเขา นางเอกนั้นรู้สึกสนใจในพระเอกตั้งแต่แรกเจอ แต่เขากลับเห็นเธอเป็นแค่เด็กสาวคนหนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อได้รู้จักกันมากขึ้น ความสดใสและจริงใจของนางเอก ทำให้พระเอกค่อยๆ เปิดใจยอมรับ จนกลายมาเป็นความรัก แต่เมื่อทั้งคู่ตกลงคบเป็นแฟนกันด้วยอายุที่ห่างกันหลายปี รวมถึงการสื่อสารที่ต้องพูดกันผ่านภาษามือเท่านั้น ทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ มากมาย เพื่อพิสูจน์ว่ารักที่เกิดขึ้นของพวกเขาจะใช่รักแท้หรือไม่
Review
วันหนึ่งเราไปเจอกระทู้ที่พูดถึงซีรีย์ญี่ปุ่นคลาสสิคหนึ่งเดียวในดวงใจแล้วมี คนเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งก็ใจตรงกับเรา เพราะเราดูครั้งแรกเมื่อ 10 กว่าปีก่อนโน้นทางฟรีทีวี สมัยนั้นเรายังเรียนหนังสืออยู่เลย จำได้ว่าดูตอนๆ แรกช่วงปิดเทอมแล้วติดงอมแงม พอเปิดเทอมก็ยังไม่จบ เลยต้องตั้งเวลาอัดวีดีโอไว้ พอเย็นเลิกเรียนก็รีบกลับบ้านมานั่งดูละครเรื่องนี้ เป็นละครที่ทำให้เราประทับใจจนกลายเป็นสาวกซีรีย์ญี่ปุ่นอย่างในปัจจุบัน พอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทำให้เราอยากดูอีกครั้งแบบซับไทยเพราะเมื่อก่อนที่ ดูเป็นพากษ์ไทย แค่ตอนแรกที่ดูความรู้สึกแบบเดิมๆ ก็กลับมาอีกครั้ง คือเกิดอาการหยุดดูไม่ได้ ตอนแรกอาจจะรู้สึกว่าพระเอกดูแก่จัง แต่ซักพักก็หลงเสน่ห์พระเอกแบบถอนตัวไม่ขึ้น รู้ได้เลยว่าฝีมือการแสดงขั้นเทพมันเป็นอย่างนี้เอง เหมือนบท "โคจิ" จิตรกรใบ้ในเรื่องเขียนมาเพื่อให้พระเอกคนนี้เล่นเท่านั้น ใครจะเชื่อว่าการสื่อสารด้วยภาษามือที่พระเอกใช้จะดูงดงามได้มากขนาดนี้ โดยเฉพาะเวลาพระเอกทำมือเพื่อบอกนางเอกว่า “ตลอดไป” ดูทีไรเราเผลอทำมือตามทุกครั้งเลย ส่วนนางเอกก็เล่นเป็นเด็กสาวที่หลงรักพระเอกแบบสุดหัวใจได้น่าเห็นใจมาก ยิ่งตอนใกล้จบที่นางเอกเข้าใจพระเอกผิดจนไปเผลอใจกับเพื่อนตัวเองนั้น จำได้ว่าสมัยที่ดูตอนวัยรุ่นเรารู้สึกโกรธนางเอกมากว่าทำไมไม่เชื่อใจพระเอก ให้ถึงที่สุด แต่พอดูตอนวัยทำงานอย่างในปัจจุบันกลับรู้สึกเข้าใจนางเอกมากขึ้น เพราะการรักษาความรักให้ยืนยาวนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะทั้งคู่สื่อสารกันได้ผ่านทางภาษามือเท่านั้น แล้วอุปสรรคที่ทั้งคู่ต้องฝ่าฟันก็มากซะเหลือเกิน แต่สุดท้ายคู่กันแล้วยังไงก็ไม่แคล้วกัน ซึ่งเป็นบทสรุปที่เราชอบมาก สำหรับสาวกซีรีย์แนวซาบซึ้งตรึงใจทุกท่านต้องหาเรื่องนี้ต้องมาดูให้ได้นะ แล้วจะรู้ว่าซีรีย์คลาสสิคนั้นผ่านไปกี่สิบปี ดูกี่ครั้งก็ยังประทับใจเหมือนเดิม
My Favorite Scene
จริงๆ เรื่องนี้มีฉากที่เราประทับใจมากเหลือเกิน แต่ถ้าให้เลือกแค่ฉากเดียวก็คงเป็นช่วงกลางๆ ของเรื่องตอนที่พระเอกพานางเอกไปเที่ยวที่มหาลัยที่เขาเคยเรียนสมัยเป็นนัก ศึกษา เพราะนางเอกแอบน้อยใจที่ไม่เคยมีความหลังในวัยเรียนด้วยกันเหมือนแฟนเก่าของ พระเอกที่เคยคบกันสมัยเป็นนักศึกษาด้วยกัน พระเอกเลยบอกให้มาสร้างความทรงจำใหม่ๆ ที่มหาลัยนี้ด้วยกันแทน พอตอนจะกลับนางเอกตัดสินใจบอกพระเอกว่าที่ชอบรู้สึกน้อยใจเพราะเวลาไม่ได้ เห็นพระเอกอยู่ข้างๆ จะรู้สึกเหงามาก เพราะเธอไม่เคยได้ยินเสียงของพระเอกเลยทำให้คิดถึงเสียงของพระเอกไม่ออก เวลาพระเอกไม่อยู่แล้วเธอแอบคิดถึง ก็จะต้องคิดถึงรอยยิ้มหรือลายมือของพระเอก ไม่ก็กลิ่นบุหรี่ที่พระเอกสูบแทน ซึ่งบางครั้งสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ทำให้เธอหายเหงาได้ พอพระเอกได้ยินตอนแรกก็อึ้งไปเล็กน้อย จนนางเอกนึกว่าพระเอกโกรธเธอ พระเอกกลับส่ายหัวแล้วตอบกลับด้วยภาษามือพร้อมรอยยิ้มว่า “ถ้าอย่างนั้น ทำไมเราไม่ย้ายมาอยู่ด้วยกันล่ะ” นางเอกซึ่งรักพระเอกสุดหัวใจยังไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยินเลยถามกลับว่า “ได้เหรอ.. เราย้ายมาอยู่ด้วยกันได้เหรอ” พระเอกพอฟังประโยคนี้จบก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง แล้วตอบกลับด้วยใบหน้าสุดอ่อนโยนว่า “ประโยคเมื่อกี้ เขา (ที่เป็นผู้ชาย) ต่างหากที่ควรเป็นคนถาม” โอ้โห.. ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของพระเอกที่มาจากข้างในจริงๆ ทั้งรักและให้เกียรตินางเอกเลย พอนางเอกฟังประโยคจบนี้ก็ดีใจมากวิ่งเขาไปกอดพระเอก ดูแล้วเราซึ้งสุดๆ สัมผัสได้ถึงความรักของคนทั้งคู่จริงๆ แบบว่าทั้งซึ้งทั้งประทับใจกับประโยคนี้ของพระเอกจริงๆ
Grade: A / Watch again: Yes
พระเอก “โคจิ” เป็นจิตรกรหนุ่มใหญ่ฝีมือดี แต่กลับมีปมด้อยสำคัญคือเขาเป็นใบ้เนื่องจากอาการเจ็บป่วยในวัยเด็กจนทำให้ เขาสูญเสียการได้ยินไป ทำให้พระเอกปิดตัวเองจากโลกภายนอก เลิกพูดคุยกับผู้คนหันมาใช้ภาษามือในการสื่อสารแทน จนได้มาเจอกับนางเอก “ฮิโรโกะ” นักแสดงสาวฝึกหัดโดยบังเอิญหลายครั้งในสวนสาธารณะแถวบ้านของเขา นางเอกนั้นรู้สึกสนใจในพระเอกตั้งแต่แรกเจอ แต่เขากลับเห็นเธอเป็นแค่เด็กสาวคนหนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อได้รู้จักกันมากขึ้น ความสดใสและจริงใจของนางเอก ทำให้พระเอกค่อยๆ เปิดใจยอมรับ จนกลายมาเป็นความรัก แต่เมื่อทั้งคู่ตกลงคบเป็นแฟนกันด้วยอายุที่ห่างกันหลายปี รวมถึงการสื่อสารที่ต้องพูดกันผ่านภาษามือเท่านั้น ทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ มากมาย เพื่อพิสูจน์ว่ารักที่เกิดขึ้นของพวกเขาจะใช่รักแท้หรือไม่
Review
วันหนึ่งเราไปเจอกระทู้ที่พูดถึงซีรีย์ญี่ปุ่นคลาสสิคหนึ่งเดียวในดวงใจแล้วมี คนเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งก็ใจตรงกับเรา เพราะเราดูครั้งแรกเมื่อ 10 กว่าปีก่อนโน้นทางฟรีทีวี สมัยนั้นเรายังเรียนหนังสืออยู่เลย จำได้ว่าดูตอนๆ แรกช่วงปิดเทอมแล้วติดงอมแงม พอเปิดเทอมก็ยังไม่จบ เลยต้องตั้งเวลาอัดวีดีโอไว้ พอเย็นเลิกเรียนก็รีบกลับบ้านมานั่งดูละครเรื่องนี้ เป็นละครที่ทำให้เราประทับใจจนกลายเป็นสาวกซีรีย์ญี่ปุ่นอย่างในปัจจุบัน พอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทำให้เราอยากดูอีกครั้งแบบซับไทยเพราะเมื่อก่อนที่ ดูเป็นพากษ์ไทย แค่ตอนแรกที่ดูความรู้สึกแบบเดิมๆ ก็กลับมาอีกครั้ง คือเกิดอาการหยุดดูไม่ได้ ตอนแรกอาจจะรู้สึกว่าพระเอกดูแก่จัง แต่ซักพักก็หลงเสน่ห์พระเอกแบบถอนตัวไม่ขึ้น รู้ได้เลยว่าฝีมือการแสดงขั้นเทพมันเป็นอย่างนี้เอง เหมือนบท "โคจิ" จิตรกรใบ้ในเรื่องเขียนมาเพื่อให้พระเอกคนนี้เล่นเท่านั้น ใครจะเชื่อว่าการสื่อสารด้วยภาษามือที่พระเอกใช้จะดูงดงามได้มากขนาดนี้ โดยเฉพาะเวลาพระเอกทำมือเพื่อบอกนางเอกว่า “ตลอดไป” ดูทีไรเราเผลอทำมือตามทุกครั้งเลย ส่วนนางเอกก็เล่นเป็นเด็กสาวที่หลงรักพระเอกแบบสุดหัวใจได้น่าเห็นใจมาก ยิ่งตอนใกล้จบที่นางเอกเข้าใจพระเอกผิดจนไปเผลอใจกับเพื่อนตัวเองนั้น จำได้ว่าสมัยที่ดูตอนวัยรุ่นเรารู้สึกโกรธนางเอกมากว่าทำไมไม่เชื่อใจพระเอก ให้ถึงที่สุด แต่พอดูตอนวัยทำงานอย่างในปัจจุบันกลับรู้สึกเข้าใจนางเอกมากขึ้น เพราะการรักษาความรักให้ยืนยาวนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะทั้งคู่สื่อสารกันได้ผ่านทางภาษามือเท่านั้น แล้วอุปสรรคที่ทั้งคู่ต้องฝ่าฟันก็มากซะเหลือเกิน แต่สุดท้ายคู่กันแล้วยังไงก็ไม่แคล้วกัน ซึ่งเป็นบทสรุปที่เราชอบมาก สำหรับสาวกซีรีย์แนวซาบซึ้งตรึงใจทุกท่านต้องหาเรื่องนี้ต้องมาดูให้ได้นะ แล้วจะรู้ว่าซีรีย์คลาสสิคนั้นผ่านไปกี่สิบปี ดูกี่ครั้งก็ยังประทับใจเหมือนเดิม
My Favorite Scene
จริงๆ เรื่องนี้มีฉากที่เราประทับใจมากเหลือเกิน แต่ถ้าให้เลือกแค่ฉากเดียวก็คงเป็นช่วงกลางๆ ของเรื่องตอนที่พระเอกพานางเอกไปเที่ยวที่มหาลัยที่เขาเคยเรียนสมัยเป็นนัก ศึกษา เพราะนางเอกแอบน้อยใจที่ไม่เคยมีความหลังในวัยเรียนด้วยกันเหมือนแฟนเก่าของ พระเอกที่เคยคบกันสมัยเป็นนักศึกษาด้วยกัน พระเอกเลยบอกให้มาสร้างความทรงจำใหม่ๆ ที่มหาลัยนี้ด้วยกันแทน พอตอนจะกลับนางเอกตัดสินใจบอกพระเอกว่าที่ชอบรู้สึกน้อยใจเพราะเวลาไม่ได้ เห็นพระเอกอยู่ข้างๆ จะรู้สึกเหงามาก เพราะเธอไม่เคยได้ยินเสียงของพระเอกเลยทำให้คิดถึงเสียงของพระเอกไม่ออก เวลาพระเอกไม่อยู่แล้วเธอแอบคิดถึง ก็จะต้องคิดถึงรอยยิ้มหรือลายมือของพระเอก ไม่ก็กลิ่นบุหรี่ที่พระเอกสูบแทน ซึ่งบางครั้งสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ทำให้เธอหายเหงาได้ พอพระเอกได้ยินตอนแรกก็อึ้งไปเล็กน้อย จนนางเอกนึกว่าพระเอกโกรธเธอ พระเอกกลับส่ายหัวแล้วตอบกลับด้วยภาษามือพร้อมรอยยิ้มว่า “ถ้าอย่างนั้น ทำไมเราไม่ย้ายมาอยู่ด้วยกันล่ะ” นางเอกซึ่งรักพระเอกสุดหัวใจยังไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยินเลยถามกลับว่า “ได้เหรอ.. เราย้ายมาอยู่ด้วยกันได้เหรอ” พระเอกพอฟังประโยคนี้จบก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง แล้วตอบกลับด้วยใบหน้าสุดอ่อนโยนว่า “ประโยคเมื่อกี้ เขา (ที่เป็นผู้ชาย) ต่างหากที่ควรเป็นคนถาม” โอ้โห.. ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของพระเอกที่มาจากข้างในจริงๆ ทั้งรักและให้เกียรตินางเอกเลย พอนางเอกฟังประโยคจบนี้ก็ดีใจมากวิ่งเขาไปกอดพระเอก ดูแล้วเราซึ้งสุดๆ สัมผัสได้ถึงความรักของคนทั้งคู่จริงๆ แบบว่าทั้งซึ้งทั้งประทับใจกับประโยคนี้ของพระเอกจริงๆ
Grade: A / Watch again: Yes
|